News and updates

Zero Day Attacks เข้าใจวิธีป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์

Zero Day Attacks เข้าใจวิธีป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์

เคยสงสัยไหมว่าทำไม "เพียงแค่คลิกเดียว" ถึงอาจเปลี่ยนชีวิตคุณได้ตลอดไป ? ในยุคที่ทุกอย่างมีการเชื่อมต่อระบบออนไลน์ กำลังทำให้ความสะดวกสบายคาบเกี่ยวกับความเสี่ยงด้าน "ภัยคุกคามทางไซเบอร์" ศัตรูเงียบทางข้อมูลและการเงินที่อยู่ใกล้ตัวกว่าที่คิด และไม่ว่าคุณจะเป็นใคร บอกเลยว่าหากไม่รู้วิธีป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์ ก็มีโอกาสที่จะเผชิญกับความเสี่ยงนี้ได้ในทุกวินาที

ระบบความปลอดภัยของข้อมูลสำคัญมากต่อองค์กรทุกระดับ  

4 อันดับ ภัยคุกคามที่สำคัญในปี 2025

ภัยคุกคามทางไซเบอร์ (Cyber Threats) คืออะไร ? หนึ่งในคำถามที่พบเจอบ่อยครั้งในช่วงนี้ เพราะนี่คือการกระทำหรือการโจมตีที่เป็นอันตรายผ่านระบบคอมพิวเตอร์ อินเทอร์เน็ต และเครือข่ายดิจิทัลต่าง ๆ โดยมีเป้าหมายเพื่อขโมยข้อมูล สร้างความเสียหาย หรือเรียกค่าไถ่จากเหยื่อ ลองมาดูกันว่าในปี 2025 นี้ ภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่น่ากังวลจะมีกี่ประเภท อะไรบ้าง ?

1. AI-Driven Cyber Attacks

ปัญญาประดิษฐ์ (AI) นวัตกรรมนี้ไม่เพียงนำมาใช้เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลในเชิงบวก แต่ยังกลายเป็นเครื่องมือสำคัญของแฮกเกอร์ในการทลายกำแพงของระบบความปลอดภัยของข้อมูล เช่น การใช้ AI ในการโจมตีแบบ Phishing ทำให้ข้อความและอีเมลหลอกลวงมีความสมจริงและน่าเชื่อถือยิ่งขึ้น AI ยังสามารถช่วยแฮกเกอร์คาดการณ์พฤติกรรมของเหยื่อและสร้างมัลแวร์ที่สามารถหลบเลี่ยงระบบรักษาความปลอดภัยได้

2. Deepfake Scams

Deepfake คือเทคโนโลยีที่สามารถปลอมแปลงใบหน้าและเสียงของบุคคลได้อย่างแนบเนียน ซึ่งในปี 2025 คาดว่าอาชญากรไซเบอร์จะใช้ Deepfake ในการแอบอ้างตัวตน เพื่อเข้าถึงข้อมูลสำคัญหรือทำธุรกรรมที่ผิดกฎหมาย เช่น การใช้ Deepfake หลอกลวงระบบป้องกันข้อมูลรั่วไหลขององค์กรทางการเงินหรือบริษัทต่าง ๆ เพื่อให้ดำเนินการโอนเงินให้แก่ผู้ไม่หวังดี หรือแม้แต่ใช้ในการสร้างข่าวปลอมที่มีผลกระทบต่อบุคคลสำคัญ

3. Ransomware 3.0

Ransomware หรือมัลแวร์เรียกค่าไถ่ มีการพัฒนาไปสู่ Ransomware 3.0 ที่ไม่เพียงแค่ล็อกข้อมูล แต่ยังขู่เปิดเผยข้อมูลสำคัญของเหยื่อ หากไม่ยอมจ่ายค่าไถ่ เทรนด์ใหม่นี้สร้างแรงกดดันต่อองค์กรและบุคคลมากขึ้น เนื่องจากไม่สามารถเพิกเฉยต่อภัยคุกคามได้ง่ายเหมือนเดิม โดยเฉพาะธุรกิจที่มีข้อมูลสำคัญ เช่น โรงพยาบาล สถาบันการเงิน และบริษัทเทคโนโลยี

4. Internet of Things (IoT) Hacks

อุปกรณ์ IoT (Internet of Things) เช่น กล้องวงจรปิด ลำโพงอัจฉริยะ และอุปกรณ์สมาร์ตโฮมกำลังเป็นเป้าหมายหลักของแฮกเกอร์ อุปกรณ์เหล่านี้มักมีช่องโหว่ด้านความปลอดภัย และหากถูกเจาะระบบ แฮกเกอร์สามารถใช้เป็นทางเข้าเพื่อทำลายเครือข่ายภายในบ้านหรือองค์กรได้ นอกจากนี้ อุปกรณ์ IoT ยังอาจถูกใช้เป็น Botnet เพื่อโจมตีเซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่ได้

ข้อดีของการเรียนรู้วิธีป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์

เมื่อภัยคุกคามทางไซเบอร์กลายเป็นปัญหาสำคัญ ที่ส่งผลกระทบต่อทั้งต่อองค์กรขนาดเล็กไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่ การเรียนรู้วิธีป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์เหล่านี้ ไม่เพียงแต่จะช่วยยกระดับระบบความปลอดภัยของข้อมูล แต่ยังมีประโยชน์ในหลาย ๆ ด้าน ดังนี้

  • ลดความเสี่ยงต่อข้อมูลส่วนตัวและทรัพย์สิน : การป้องกันภัยคุกคามเชิงรุกช่วยลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากการโจมตี เช่น Phishing, Ransomware หรือการแฮกบัญชีส่วนตัว ซึ่งอาจนำไปสู่การสูญเสียทั้งข้อมูลและทรัพย์สินทางการเงิน การมีความรู้ด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ทำให้สามารถระวังภัยเหล่านี้ได้ดีขึ้น และรับมือได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • เพิ่มความน่าเชื่อถือ : สำหรับองค์กร การมีระบบความปลอดภัยของข้อมูลที่แข็งแกร่ง จะช่วยสร้าง ความไว้วางใจให้แก่ลูกค้าและคู่ค้า การให้ความสำคัญกับความปลอดภัยทางไซเบอร์จึงเป็นการลงทุนที่ช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือขององค์กร
  • รองรับการเติบโตของเทคโนโลยี : ความปลอดภัยทางไซเบอร์ต้องพัฒนาไปพร้อมกับเทคโนโลยีที่เติบโตหรือเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว องค์กรที่ให้ความสำคัญกับ Cybersecurity จะสามารถปรับตัวให้เข้ากับเทคโนโลยีใหม่ได้อย่างมั่นคงและปลอดภัย เช่น Cloud Computing, AI หรือ IoT ซึ่งการเรียนรู้และติดตามแนวโน้มของภัยคุกคามจึงช่วยให้ธุรกิจสามารถเติบโตไปข้างหน้าได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัย

  

5 วิธีป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์

วิธีป้องกันภัยคุกคามไซเบอร์มีกี่ประเภท อะไรบ้าง  

  • ใช้ระบบ Zero Trust Architecture : ระบบนี้ทำงานบนหลักการ “ไม่ไว้วางใจใครทั้งสิ้น” (Never Trust, Always Verify) โดยกำหนดให้ทุกการเข้าถึงต้องได้รับการตรวจสอบสิทธิ์ แม้จะอยู่ภายในเครือข่ายขององค์กรเอง
  • อัปเดตซอฟต์แวร์และระบบความปลอดภัยเป็นประจำ : ซอฟต์แวร์ที่ล้าสมัยมักมีช่องโหว่ที่แฮกเกอร์สามารถใช้โจมตีได้ การอัปเดตระบบปฏิบัติการ แอนติไวรัส และแอปพลิเคชัน เป็นประจำจะช่วยปิดช่องโหว่เหล่านี้
  • ลงทุนใน Cyber Security Insurance : ประกันความปลอดภัยทางไซเบอร์จะช่วยลดความเสียหายทางการเงินหากเกิดเหตุโจมตี เช่น การรั่วไหลของข้อมูลหรือ Ransomware ซึ่งช่วยให้องค์กรสามารถฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
  • เสริมสร้าง Cyber Hygiene : สร้างวินัยทางไซเบอร์ให้พนักงานและบุคคลทั่วไป เช่น ตั้งรหัสผ่านที่คาดเดายาก, เปิดใช้การยืนยันตัวตนสองขั้นตอน (2FA) และหลีกเลี่ยงการคลิกลิงก์น่าสงสัย เพื่อลดโอกาสถูกโจมตี
  • ใช้ระบบป้องกันการสูญหายของข้อมูล (DLP) : ช่วยป้องกันการรั่วไหลของข้อมูลสำคัญ โดยกำหนดนโยบายรักษาความปลอดภัย เช่น ควบคุมการแชร์ไฟล์ ป้องกันข้อมูลรั่วไหลผ่านอีเมล และตรวจสอบพฤติกรรมต้องสงสัยของผู้ใช้งาน

ภัยคุกคามทางไซเบอร์ในปี 2025 ไม่ใช่เรื่องไกลตัว หากคุณยังไม่ได้เตรียมตัวรับมือ นี่คือเวลาที่เหมาะสมในการเสริมสร้างระบบป้องกันให้มั่นคง ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้าน Cyber Security เพื่อยกระดับระบบความปลอดภัยของข้อมูล สร้างระบบป้องกันข้อมูลรั่วไหล ให้ห่างไกลจากความเสี่ยงที่ไม่คาดคิด ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญของเรา เพื่อขอรับคำแนะนำในการติดตั้งโซลูชันป้องกันภัยคุกคามที่ตอบโจทย์กับรูปแบบธุรกิจของคุณได้เลย 

  

ข้อมูลอ้างอิง

  1. Zero Trust กับแนวทางปฏิบัติจริงจาก Cisco. วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2568 จาก https://www.techtalkthai.com/zero-trust-concept-and-how-to-in-practical-by-cisco/